การลงทุนกับสินค้าโภคภัณฑ์

สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) หมายถึง สินค้าที่ตัวสินค้ามีมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ไม่มีความแตกต่างกันในเชิงคุณภาพระหว่างสินค้า ไม่สำคัญว่าใครจะเป็นผู้ผลิตสินค้า เช่น น้ำมัน ข้าว ทองแดง ก๊าซธรรมชาติ น้ำตาล ยาง เป็นต้น ไม่ว่าเราจะซื้อสินค้าโภคภัณฑ์จากที่ไหนก็ตาม คุณสมบัติจะคล้ายๆกัน น้ำมันเติมปั๊มไหนรถก็วิ่งได้เหมือนกัน ข้าวซื้อที่ไหนก็กินได้เหมือนกัน น้ำตาลซื้อที่ไหนก็หวานเหมือนกัน

ดังนั้นสินค้าโภคภัณฑ์จึงเป็นสินค้าที่ไม่มีความสามารถในการแข่งขันในเรื่องของความแตกต่าง เหมือนกับสินค้าประเภทอื่น ทำให้ผู้ผลิตไม่สามารถกำหนดราคาสินค้าได้ ราคาจะขึ้นอยู่กับอุปสงค์-อุปทาน เป็นหลักไม่ว่าใครจะเป็นผู้ผลิตก็ตาม ซึงจะทำให้เกิดราคากลางทั่วโลกขึ้น

แล้วอะไรคือตัวขับเคลื่อนราคาตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

สินค้าโภคภัณฑ์แต่ละชนิดจะมีปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาแตกต่างกันไป การเปลี่ยนแปลงของราคาอย่างรุนแรงในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์อาจเกิดขึ้นได้เมื่อสินค้าโภคภัณฑ์นั้น ๆ เกิดขาดแคลนหรือมีมากเกินไปจนล้นตลาด แต่โดยส่วนใหญ่แล้วปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เกือบทุกชนิดก็คือความเปลี่ยนแปลงด้านอุปสงค์และอุปทาน อย่างไรก็ดี ก็ยังมีปัจจัยด้านอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน เช่น เงินดอลลาร์สหรัฐ, สินค้าทดแทน และสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น

Commodity supply

อุปทานของสินค้าโภคภัณฑ์นั้นอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างด้วยกัน เช่น การแทรกแซงของรัฐบาล, สภาพภูมิอากาศ, สงคราม และอื่น ๆ

ตัวอย่างเช่น เมื่อวันที่ 14 กันยายน ค.ศ. 2019 ได้เกิดเหตุการณ์โดรนติดระเบิดบุกเข้าโจมตีโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในซาอุดิอาระเบีย ทำให้กำลังการผลิตน้ำมันของโลกลดลงถึง 5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ปริมาณดังกล่าวถือเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของกำลังการผลิตปัจจุบันของซาอุดิอาระเบีย และคิดเป็น 5% ของการผลิตน้ำมันของโลก เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์เลยทีเดียว

เมื่อตลาดเปิดอีกครั้งในวันที่ 16 กันยายน ราคาน้ำมันดิบ Bent ก็พุ่งสูงขึ้นจาก 60.42 ในตอนเย็นของวันที่ 13 กันยายนมาแตะที่ 72.19 เมื่อเปิดตลาดในวันที่ 16 กันยายน คิดเป็นการกระโดดขึ้นของราคาสูงถึง 19.4% เลยทีเดียว และในช่วงเวลาเดียวกัน ราคาน้ำมันดิบ WTI ก็พุ่งสูงขึ้นถึง 15.5% จาก 54.70 เป็น 63.28

1. Soft Commodities

คือ สินค้าโภคภัณฑ์ที่มนุษย์สามารถผลิตได้ จะเป็นสินค้าภาคการเกษตรกรรม เช่น ข้าว, น้ำตาล, วัวควาย, เป็ดไก่, หมู, ถั่วเหลือง, ขนสัตว์, ยางพารา, น้ำมันปาล์ม, ฝ้าย, ข้าวโพด, กาแฟ เป็นต้น

2. Hard Commodities

คือ สินค้าโภคภัณฑ์ที่มนุษย์ไม่สามารถสามารถผลิตเองได้ ต้องขุดหามาจากใต้ดิน เช่น น้ำมันดิบ, ทอง, โลหะเงิน, ผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียม (เช่น กลุ่มปิโตรเคมี Paraxylene, Benzene, Ethylene เป็นต้น), สิ่งที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน เช่น ค่าการกลั่น, เหล็ก, ถ่านหิน เป็นต้น

โดยที่ได้รับความนิยมจะเป็นสินค้าที่สามารถจับต้องได้ไม่ว่าจะ เป็น ทองคำ , อลูมิเนียม , ตะกั่ว , เงิน , สินค้าเกษตรต่าง ๆ หรือจะเป็นน้ำมันดิบ ก๊าชธรรมชาติ ที่คุณสามารถเลือกได้สะดวก แต่ก็ต้องเลือกสินค้าเหล่านี้บนพื้นฐานความรู้ที่ตนเองมีเพื่อสร้างโอกาสในการเทรดให้เป็นผลสำเร็จและสร้างกำไรขึ้นได้จากการลงทุน

ค่าธรรมเนียมการเข้าซื้อและขายรวมทั้งสิ้นคือ 0.4% ของราคาปัจจุบัน